Skip to content บัญชีผู้ใช้งาน : Computer Center, Burapha University

บัญชีผู้ใช้งาน

บัญชีผู้ใช้งาน หรือ "Buu Account" ประกอบด้วยชื่อผู้ใช้ (Username) และรหัสผ่าน (Password) ใช้สำหรับยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน (นิสิตและบุคลากร มหาวิทยาลัยบูรพา) ในการเข้าถึงระบบเครือข่าย ระบบสารสนเทศ และบริการด้านไอทีของมหาวิทยาลัย ซึ่งออกให้โดยสำนักคอมพิวเตอร์ ตาม ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ พ.ศ. 2560

บัญชีผู้ใช้งาน (Buu Account) สำหรับนิสิต

  • ชื่อผู้ใช้ (Username) คือ รหัสนิสิต เช่น 60999999
  • รหัสผ่าน (Password) คือ ตัวอักษรที่ประกอบด้วย A-Z, a-z, 0-9 และอักขระพิเศษอื่น ๆ จำนวน 8 ตัวอักษรขึ้นไป

การใช้งาน "Buu Account"

image buu account

“บัญชีผู้ใช้” หรือ “Buu Account” ใช้สำหรับล็อกอินเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ในการเข้าถึงระบบเครือข่าย, ระบบสารสนเทศ, และบริการด้านไอทีของมหาวิทยาลัยบูรพา เช่น

และระบบอื่นๆ รายละเอียดดูได้ในหัวข้อ Buu Account ใช้งานกับ “อะไร” ได้บ้าง ซึ่งบัญชีผู้ใช้ (Buu Account) ถือเป็นสมบัติของนิสิต โดยเฉพาะรหัสผ่าน ต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับ และห้ามแจกจ่ายให้ผู้อื่นร่วงรู้

ข้อควรรู้

การเปลี่ยนรหัสผ่านด้วยตนเอง

สามารถเปลียนรหัสผ่านด้วยตนเองได้ที่ www.myid.buu.ac.th

วิธีดำเนินการเมื่อลืมรหัสผ่าน

สามารถกู้คืนรหัสผ่านด้วยตนเองได้ที่ www.myid.buu.ac.th

วิธีสร้างรหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภัย

  • รหัสผ่านต้องมีความยาว 8 ตัวอักษรขึ้นไป
  • รหัสผ่านต้องประกอบด้วยตัวอักษร A-Z a-z 1-9 และตัวอักขระพิเศษ เช่น ! # @ % ^ _
  • ไม่แนะนำให้ใช้อักขระที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ (Non-English characters) ในการกำหนดรหัสผ่าน
    • เนื่องจาก มหาวิทยาลัยบูรพา มีระบบสารสนเทศหลากหลายประเภท ที่ใช้ “บัญชีผู้ใช้” เดียวกันนี้ ในการล็อกอิน เข้าระบบฯ
    • เพื่อความสะดวกในกรณีที่ต้องใช้งาน (ล็อกอิน) ระบบผ่านอุปกรณ์ Smartphone หรืออุปกรณ์พกพาอื่น ๆ

ทำไมต้องเปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 180 วัน

ตามประกาศสำนักคอมพิวเตอร์ "ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ พ.ศ. 2560" ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ เป็นประจำเสมอ โดยได้กำหนดอายุของรหัสผ่านไว้ที่ 180 วัน หากผู้ใช้งาน (นิสิตและบุคลากร) ไม่มีการเปลี่ยนรหัสผ่านภายใน 180 วัน ระบบจะระงับบัญชีผู้ใช้งานไว้อัตโนมัติ ดังนั้นผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอก่อนครบ 180 วัน หรือก่อนรหัสผ่านหมดอายุ ซึ่งก่อนที่รหัสผ่านจะหมดอายุ 15 วัน จะมีอีเมลจาก Administratorbuu.ac.th ส่งไปเตือนให้นิสิตเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ทุกวัน จนกว่านิสิตจะเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่

Buu Account ใช้งานกับระบบ "อะไร" ได้บ้าง

“บัญชีผู้ใช้” หรือ “Buu Account” สามารถนำไปล็อกอิน/ยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้บริการต่าง ๆ ของสำนักคอมพิวเตอร์ ดังต่อไปนี้

นอกจากนี้ บัญชีผู้ใช้งาน (Buu Account) ยังสามารถใช้ได้กับบริการและระบบสารสนเทศอื่น ๆ ของส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของแต่ละส่วนงาน

บัญชีผู้ใช้งาน (Buu Account) สำหรับบุคลากร

  • ชื่อผู้ใช้ (Username) คือ ชื่อภาษาอังกฤษ ของบุคลากร เช่น sompong, sompop.s, nattiya.jr เป็นต้น
  • รหัสผ่าน (Password) คือ ตัวอักษรที่ประกอบด้วย A-Z, a-z, 0-9 และอักขระพิเศษอื่น ๆ จำนวน 8 ตัวอักษรขึ้นไป

การใช้งาน "Buu Account"

Buu Account ใช้สำหรับล็อกอินเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งาน ในการเข้าถึงระบบเครือข่าย, ระบบสารสนเทศ, และบริการด้านไอทีของมหาวิทยาลัยบูรพา เช่น

และระบบอื่นๆ รายละเอียดดูในหัวข้อ “Buu Account ใช้งานกับอะไรได้บ้าง” ซึ่ง Buu Account ถือเป็นสมบัติของผู้ใช้งาน โดยเฉพาะรหัสผ่าน ต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับ และห้ามแจกจ่ายให้ผู้อื่นร่วงรู้

ข้อควรรู้

การเปลี่ยนรหัสผ่านด้วยตนเอง

สามารถเปลียนรหัสผ่านด้วยตนเองได้ที่ www.myid.buu.ac.th

วิธีดำเนินการเมื่อลืมรหัสผ่าน

สามารถกู้คืนรหัสผ่านด้วยตนเองได้ที่ www.myid.buu.ac.th

วิธีสร้างรหัสผ่านอย่างไรให้ปลอดภัย

  • รหัสผ่านต้องมีความยาว 8 ตัวอักษรขึ้นไป
  • รหัสผ่านต้องประกอบด้วยตัวอักขระ A-Z a-z 1-9 และตัวอักขระพิเศษ เช่น ! # @ % ^ _
  • ไม่แนะนำให้ใช้อักขระที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ (Non-English characters) ในการกำหนดรหัสผ่าน
    • เนื่องจาก มหาวิทยาลัยบูรพา มีระบบสารสนเทศหลากหลายประเภท ที่ใช้ “บัญชีผู้ใช้” เดียวกันนี้ ในการล็อกอิน เข้าระบบฯ
    • เพื่อความสะดวกในกรณีที่ต้องใช้งาน (ล็อกอิน) ระบบผ่านอุปกรณ์ Smartphone หรืออุปกรณ์พกพาอื่น ๆ

ทำไมต้องเปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ 180 วัน

ตามประกาศสำนักคอมพิวเตอร์ "ประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ พ.ศ.2560" ผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ เป็นประจำเสมอ โดยได้กำหนดอายุของรหัสผ่านไว้ที่ 180 วัน หากผู้ใช้งาน (นิสิต|บุคลากร) ไม่มีการเปลี่ยนรหัสผ่านภายใน 180 วัน ระบบจะระงับบัญชีผู้ใช้งานไว้อัตโนมัติ ดังนั้นผู้ใช้งานต้องเปลี่ยนรหัสผ่าน ด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอก่อนครบ 180 วัน หรือก่อนรหัสผ่านหมดอายุ ซึ่งก่อนที่รหัสผ่านจะหมดอายุ 15 วัน จะมีเมลจาก Administratorbuu.ac.th ส่งไปเตือนให้ท่านเปลี่ยนรหัสผ่านใหม่ โดยจะมีเมลเตือนทุกวัน จนกว่าท่านเปลี่ยนแปลงรหัสผ่านใหม่

BUU Account ใช้งานกับระบบ "อะไร" ได้บ้าง

“Buu Account” หรือ “บัญชีผู้ใช้” สามารถนำไปล็อกอิน/ยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้บริการต่าง ๆ ของสำนักคอมพิวเตอร์ ดังต่อไปนี้

นอกจากนี้ “บัญชีผู้ใช้งาน” ยังสามารถใช้ได้กับ บริการ หรือ ระบบสารสนเทศอื่น ๆ ของส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ด้วย นอกจากนี้ “บัญชีผู้ใช้งาน” ยังสามารถใช้ได้กับ บริการ หรือ ระบบสารสนเทศอื่น ๆ ของส่วนงานภายในมหาวิทยาลัยบูรพา ได้ด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ของแต่ละส่วนงาน

มหาวิทยาลัยบูรพา ได้เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทางเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา (Inter University Network) หรือที่เรียกว่า เครือข่าย “UniNet” เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการเรียนการสอน การวิจัย และการปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัย ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยบูรพามีแบนด์วิธ (ความเร็ว) การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตสูงสุด อยู่ที่ 4 Gb/s (gigabit per second) โดยให้บริการผู้ใช้งานทั้งมหาวิทยาลัย มีการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต กว่า 10,000 (user) คนพร้อมกันหรือกว่า 30,000 devices ในแต่ละวัน ดังนั้น เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีแบนด์วิธที่เพียงพอสำหรับใช้งานในช่วงเวลา 08:00 น. – 20:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่มีกิจกรรมการเรียนการสอนและปฏิบัติงาน, มหาวิทยาลัยจึงจำเป็นต้องมีการบริหารแบนด์วิธอินเทอร์เน็ตให้เพียงพอต่อการใช้งานทั้งมหาวิทยาลัย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป แนวทางในการบริหารแบนด์วิธ มีดังนี้

  1. ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต มหาวิทยาลัยบูรพา จะมีโควต้าแบนด์วิธ สูงสุด 10 GB (gigabyte) ต่อวัน ที่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตของมหาวิทยาลัยได้ในความเร็วปกติ
  2. ตั้งแต่เวลา 08:00 น. – 20:00 น. ปริมาณข้อมูลรวม (Data) ที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งาน ทั้งขาเข้าและขาออก (upload/download) จะถูกหักลบออกจากโควต้าแบนด์วิธของผู้ใช้งาน ส่วนการใช้งานหลังจากนั้น คือเวลา 20:00:01 – 07:59:59 ปริมาณข้อมูลการใช้งานอินเทอร์เน็ต จะไม่ถูกหักออกจากโควต้าแบนด์วิธ
  3. ในการเติมโควต้าแบนด์วิธกลับคืน ระบบจะเติมกลับในอัตรา 200 KB/s (kilobyte per second) เติมตลอดเวลา, 24 ชั่วโมงต่อวัน ทั้งในระหว่างที่มีการใช้งานและไม่ได้ใช้งาน และเมื่อเติมเต็มโควต้า 10 GB แล้ว ระบบจะหยุดเติม จะไม่มีการสะสมโควต้า
  4. หากผู้ใช้งาน มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตจนโควต้าแบนด์วิธเต็ม และยังคงใช้อินเทอร์เน็ตต่อเนื่องไปอีก จะทำให้โควต้าของผู้ใช้งานติดลบ ซึ่งผู้ใช้งานยังคงสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้ แต่จะใช้ได้ในความเร็วที่ต่ำกว่าปกติ
  5. อัตราการเติมกลับโควต้าแบนด์วิธ ปัจจุบัน กำหนดเอาไว้ที่ 200 KB/s ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงในภายหลังเพื่อความเหมาะสมสำหรับให้มหาวิทยาลัยมีแบนด์วิธที่เพียงพอต่อการใช้งานช่วงเวลาที่มีกิจกรรมการเรียนการสอนและปฏิบัติงานภายในมหาวิทยาลัย

ข้อควรรู้

  1. ปริมาณข้อมูลที่เกิดขึ้นในการสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์ (รวมทั้งเครื่อง server) ที่อยู่ภายในเครือข่ายมหาวิทยาลัยบูรพา (intranet) จะไม่ถูกนำไปหักลบออกจากโควต้าแบนด์วิธ
  2. โควต้าแบนด์วิธ จะถูกเติมกลับคืนให้ผู้ใช้งานในอัตรา 200 KB/s ดังนั้น ถ้าหากปริมาณข้อมูลที่เกิดขึ้นระหว่างที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ต ไม่เกิน 200 KB/s, จะทำให้โควต้าแบนด์วิธของผู้ใช้งานแต่ละคน ยังคงมีค่าใกล้เคียงกับค่าตั้งต้น หรือ แทบจะไม่เปลี่ยนแปลง เกือบตลอดเวลา
  3. ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบปริมาณการใช้งานแบนด์วิธของตนเอง ได้ที่ https://info.buu.ac.th/

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมที่

ห้อง 201 ชั้น 2 สำนักคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี
เบอร์โทรศัพท์ 0-3810-2774 อีเมล ictinfra@buu.ac.th